มาตรฐานสากลหลักที่ใช้อ้างอิงกันทั่วโลกคือ EN 12193:2018 ซึ่งสมาพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ก็ได้ให้การยอมรับและมีข้อกำหนดที่สอดคล้องกัน มาตรฐานจะแบ่งระดับการใช้งานออกเป็น 3 ระดับหลัก (Classes of Play)
ค่ามาตรฐานความสว่างสนามแบดมินตันตามหลักสากล EN 12193:2018 | |||
---|---|---|---|
คุณสมบัติทางเทคนิค | Class I (แข่งขันระดับสูง/ถ่ายทอดสด) | Class II (แข่งขันระดับสโมสร/ภูมิภาค) | Class III (ฝึกซ้อม/สันทนาการ) |
ค่าความสว่าง (Lux) | ≥ 1000 Lux | ≥ 500 Lux | ≥ 200 - 300 Lux |
ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity - Uo) | ≥ 0.8 (Min/Avg) | ≥ 0.7 (Min/Avg) | ≥ 0.6 (Min/Avg) |
ค่าความถูกต้องของสี (CRI) | > 90 Ra (จำเป็นสำหรับ HDTV) | > 80 Ra | > 80 Ra |
การควบคุมแสงแยงตา (Glare - UGR) | < 19 (ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้) | < 19 | < 22 |
ประสิทธิภาพแสง (Efficacy) | > 140 lm/W (หรือสูงกว่า) | > 140 lm/W (หรือสูงกว่า) | > 130 lm/W (หรือสูงกว่า) |
การกระพริบ (Flicker) | Flicker-Free 100% (สำหรับกล้อง Super Slow-Motion) | Flicker-Free (ปราศจากการกระพริบเพื่อการมองเห็นที่คมชัด) | Flicker-Free (ปราศจากการกระพริบเพื่อการมองเห็นที่คมชัด) |
โคมไฟสนามแบดมินตัน LED ที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้แสงสว่างที่เหมาะสมสำหรับแต่ละระดับการแข่งขันและการใช้งาน ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและความปลอดภัยของผู้เล่นอีกด้วย
1. ห้ามติดตั้งโคมไฟเหนือคอร์ทแบดมินตัน (No-Fly Zone) หลีกเลี่ยงการติดตั้งโคมไฟ LED ตรงเหนือคอร์ท (PPA) เพื่อป้องกันแสงแยงตาผู้เล่น
2. ควรใช้การส่องจากด้านข้าง (Side Lighting) ติดตั้งโคมไฟอยู่นอกเส้นข้างสนาม ติดตั้งเรียงตามแนวยาวของสนาม
3. จำนวนโคมไฟที่แนะนำ ใช้ โคมไฟฟลัดไลท์ LED อย่างน้อย 6–10 ดวงต่อคอร์ท (ฝั่งละ 3–5 ดวง)
4. การปรับมุมแสง (Aiming) โคมไฟทุกดวงต้องปรับมุมให้ส่องแสงเข้าพื้นที่คอร์ทอย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ
5. ความสูงในการติดตั้งที่เหมาะสม ติดตั้งโคมไฟที่ความสูง 6–9 เมตร หากเพดานสูงกว่า 9 เมตร ควรเลือกโคมไฟกำลังสูงขึ้นและมุมแสงแคบลง
6. ควรออกแบบแสงโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้โปรแกรมจำลองแสง (เช่น DIALux หรือ Relux) เพื่อคำนวณจำนวนโคม, มุมแสง, ตำแหน่ง และความสูงอย่างแม่นยำเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพแสงในสนามให้ได้มาตรฐาน
26 กันยายน 2568
ผู้ชม 18 ครั้ง