มาตรฐาน |
ระดับการใช้งาน / การแข่งขัน |
ค่าความสว่าง (Lux) |
ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity - Uo) |
ค่าแสงจ้า(Glare Rating) |
ดัชนีความถูกต้องของสี(CRI) |
อุณหภูมิสี(CCT) |
---|---|---|---|---|---|---|
FIBA |
ระดับนานาชาติ (มีถ่ายทอดสด) |
1,500 – 3,000 Lux |
≥ 0.8 |
UGR<19 |
≥ 90 |
5500–6000K |
ระดับภูมิภาค/สโมสร (ไม่มีถ่ายทอดสด) |
200-500 Lux |
≥ 0.7 |
≥ 80 |
4000–6000K |
||
EN 12193:2018 |
Class I (แข่งขันระดับนานาชาติ / ถ่ายทอดสด) |
750-1500 Lux |
≥ 0.7 |
≤ 50 |
≥ 80 |
4000–6500K |
Class II (แข่งขันระดับสโมสร / ภูมิภาค) |
500-750 Lux |
≥ 0.6 |
≥60 |
|||
Class III (ฝึกซ้อม / โรงเรียน / สันทนาการ) |
200-500 Lux |
≥ 0.5 |
≤ 55 |
1. ตำแหน่งโคมไฟ สนามในร่ม: ติดตั้งบนเพดาน หรือ ผนังด้านข้าง
***ข้อสำคัญ ห้ามติดตั้งโคมไฟตรงเหนือหรือหลังแป้นบาสใกล้ๆ เพื่อเลี่ยงแสงแยงตาผู้เล่น.
2. ความสูง ต้องเหมาะสมเพื่อให้แสงกระจายสม่ำเสมอและลดแสงจ้า ประมาณความสูง 6-12 เมตร (ขึ้นอยู่กับเพดานและระดับการแข่งขัน)
การปรับมุมแสง โคมไฟต้อง ปรับมุมแม่นยำ ให้ส่องแสงเข้าสนามเท่านั้น (มุมเงยไม่เกิน 60-65 องศา ตาม FIBA) และใช้เลนส์ควบคุมแสง (เช่น Asymmetric Optics).
3. คุณสมบัติโคมไฟ เลือกโคมไฟ LED คุณภาพสูง ที่มี IP (กันฝุ่น/น้ำ) และ IK (ทนแรงกระแทก) สูง พร้อมระบบ ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection).
4. ระบบไฟฟ้า ติดตั้งโดย ช่างผู้เชี่ยวชาญ มี วงจรแยกเฉพาะ มี สายดิน และเดินสายใน ท่อร้อยสายไฟ (ใต้ดินสำหรับกลางแจ้ง).
5. การออกแบบและตรวจสอบ ควรให้ ผู้เชี่ยวชาญออกแบบด้วยโปรแกรมจำลองแสง (DIALux/Relux) และมีการ วัดค่าแสงจริงหลังติดตั้ง เพื่อยืนยันว่าได้มาตรฐาน
26 กันยายน 2568
ผู้ชม 8 ครั้ง